สหประชาชาติหรือ UN แถลงเตือนด้วยความเป็นห่วงเรื่องจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสภาพเศรษฐกิจที่จะขยายตัวในอนาคตกำลังจะเป็นสาเหตุทำให้หลายภาคส่วนของโลกต้องการใช้น้ำและพลังงานในปริมาณที่มากขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วงเวลาอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
ความต้องการน้ำสะอาดและพลังงานไฟฟ้าในโลกอนาคตจะเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกันซึ่งเป็นสัญญาณที่เลวร้ายมากกว่าเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติบนโลกนั้นมีปริมาณที่จำกัด ดังนั้น หากไม่มีการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้ดี ก็เป็นไปได้ว่า ประชากรของโลกบางส่วนจะประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำและพลังงานได้ในอนาคตอันใกล้
นาย Michael Jarraud เลขาธิการองค์การธรณีวิทยาโลก กล่าวว่า เราต้องการการทำงานที่ประสานกันระหว่างการวางแผนตามนโยบายและการกำหนดยุทธศาสตร์ทางนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จากการประมาณการในอนาคต โลกต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้น 55% ภายในปี ค.ศ. 2050 ส่วนในทวีปเอเชียจะเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำตามบริเวณพื้นที่รอยต่อตามชายแดน หรือพื้นที่ที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น
ที่มา:
Nasa-funded study: industrial civilisation headed for ‘irreversible collapse’?. (1 พฤษภาคม2557).
World faces ‘water-energy’ crisis: UN. (1 พฤษภาคม2557).
แปลและเรียบเรียงโดย
ฝ่ายข้อมูลสนับสนุน บริษัท อิมเมจ พลัส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด: 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
pdf_1399349346