ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะไบโอดีเซลและแหล่งพลังงานที่พบตามหินดินดาน (Shale gas) ถือเป็นภัยเงียบต่อน้ำจืดที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ ทางองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนผ่านรายงาน World Water Development ซึ่งพบว่า ก่อนปี ค.ศ. 2030 ทั่วโลกจะต้องการน้ำจืดเพิ่มขึ้น 40%และต้องการพลังงานมากขึ้น 50% จากปริมาณในปัจจุบัน และพบว่าทั่วโลกมีประชากรประมาณ 770 ล้านคนจากทั้งหมด 7 พันล้านคน ที่ไม่สามารถบริโภคน้ำสะอาดได้ และภาคพลังงานที่มีส่วนในการใช้น้ำถึง 15% จากแหล่งน้ำตามธรรมชาติทั้งหมด เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ และแหล่งน้ำใต้ดิน           อุตสาหกรรมพลังงานส่วนใหญ่ใช้น้ำในการผลิต ซึ่งพบว่าการผลิตพลังงานจากลมและ Solar cell นั้นใช้น้ำน้อยที่สุด ส่วนการผลิตพลังงานที่ใช้น้ำมากที่สุดในกระบวนการผลิตคือ แหล่งพลังงานที่พบในหินดินดาน           นายSafar Ardell เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านน้ำของ UNให้ความเห็นว่า รัฐบาลของแต่ละประเทศควรกลับมาทบทวนการอุดหนุนทั้งพลังงานและน้ำ           อย่างไรก็ตาม บรรดาบริษัทพลังงานต่างประสานเสียงว่า จะหาทางจำกัดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต เช่น บริษัท Exxon Mobil เผยว่า ตัวเลขการใช้น้ำโดยรวมในกระบวนการผลิตของบริษัทได้ลดลงไป 11% ถึง 2.1 พันล้านบาร์เรลในปี ค.ศ. 2012 จากปีก่อนหน้านั้น   ที่มา:

Rising energy demand a threat to strained water supplies – UN.  (27 มีนาคม  2557). 

World Water Day 2014: Water and Energy.  (27 มีนาคม  2557). 

 

————————— แปลและเรียบเรียงโดย ฝ่ายข้อมูลสนับสนุน บริษัท อิมเมจ พลัส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด: 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 pdf_1396242651
Share this

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *